อาร์เจนตินาซิวแชมป์ฟินาลิสซิม่า
ทีมชาติอาร์เจนติน่า ซิวแชมป์ฟินาลิสซิม่า ได้สำเร็จ ลีโอเนล เมสซี่ โชว์ลีลาพลิ้วไหว เลาตาโร่ทั้งยิงทั้งจ่าย พาทีมฟ้าขาว อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์อเมริกาใต้ ปราบแชมป์ยุโรป อิตาลี แบบสุดมันส์ 3 ประตูต่อ 0 ในรากยารศึกแชมป์ชนแชมป์ ครั้งที่ 3 ที่ชื่อว่า ฟินาลิสซิม่า มาครองได้สำเร็จ และเป็นแชมป์สมัยที่ 2 ต่อจากปี 1993 หรือ 29 ปีที่แล้ว ที่อาร์เจนติน่าเคยทำได้ คว่ำเดนมาร์กได้สำเร็จ
ฟินาลิสซิม่า ศึกแชมป์ชนแชมป์ ที่สนาม เวมบลี่ย์ ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันพุธที่ 1 มิถุนายน 256 ระหว่าง แชมป์ยุโรป อิตาลี พบกับแชมป์อเมริกาใต้ อาร์เจนติน่า รายการนี้ ถือเป็นการนำเอามาปัดฝุ่น จัดขึ้นอีกครั้งในรอบ 29 ปี นับเป็นครั้งที่ 3 และ 2 ครั้งล่าสุด เมื่อปี 1985 ที่ฝรั่งเศส คว้าแชมป์ หลังจากที่ฝั่งเศส เอาชนะ อุรุกวัยไปได้ 2 ประตูต่อ 0 ก่อนที่หนที่ 2 ในปี 1993 อาร์เจนติน่า เฉือนชนะจุดโทษ เดนมาร์ก 5 ประตูต่อ 4 อิตาลี ส่ง 3 แนวรุก เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ , อันเดรีย เบล็อตติ และจานลูก้า ราสปาโดรี่ ลงล่าตาข่าย
อาร์เจนติน่า มี ลีโอนล สกาโลนี่ คุมทัพ มีแนวรุก คือ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ เป็นหน้าเป้า ให้ อังเคล ดิมาเรีย , ลีโอเนล เมสซี่ และโจวานนี่ โล เซลโซ่ ขับเคลื่อนเกมรุกอยู่ข้างหลัง
เริ่มครึ่งแรก 2 นาทีแรก อาร์เจนติน่า เกือบไดลุ้น ดิ มาเรีย ลักไก่ตักบอลกว่า 40 หลา บอลข้ามหัว ดอนนารุมม่า แต่บอลไม่รงกรอบ จากนั้นนาทท่ 5 เมสซี่ เรียกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่เมสซี่จะลุกขึ้นมาปั่นบอลไปติดกำแพง นาทีที่ 12 แชมป์ ยุโรป โอกาสน้อยมากได้ลุ้น จอร์จินโญ่ ไหลบอลให้ จานโคม่า ราสปาโดรี่ พลิกตัวยิงด้วยขวาไปตรงตัว เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ รับเข้าซองไว้ อิตาลีเองเริ่มครองเกมได้มากขึ้น หาโอกาสโจมตีฟ้าขาวได้บ่อยครั้ง นาทีที่ 21 ได้ลุ้นจากลูกโขก เบล็อตติ บอลย้อยไปเข้ามือของ มาร์ติเนซ อาร์เจนติน่ามาขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่อิตาลีเสียการครองบอลกลางสนาม แทงขึ้นหน้าให้เมสซี่ พลกบอลหลบ ดิ ลอเรนโซ่ ก่อนที่จะเบียดกระชากไปถึงเส้นหลัง แล้วตบเข้ากลางประตู ให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ จิ้มบอลเข้าไปง่าย ๆ ก่อนจบครึ่งแรกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ฟ้าขาว อาร์เจนติน่า มาได้ประตูนำห่างเป็น 2-0
ครึ่งหลัง อิตาลี เปลี่ยนตัว 3 คนรวด และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+4 ฟ้าขาว มาได้ประตูปิดกล่อง 3-0 หลังจาก เมสซี่พาบอลมาหน้ากรอบแล้วไหลให้ เปาโล ดีบาล่า ซัดเข้าไปไม่เหลือ คว้าถ้วยศึกแชมป์ชนแชมป์ ครั้งที่ 3ได้สำเร็จ
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก : https://footballhits98.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น