Football news

ยินดีกับข่าวดีได้ไม่นานก็ต้องเผชิญกับเขาร้ายอีกครั้งจนได้สำหรับแฟนบอลเชลซี สโมสรที่ถูกคำสาปในปีนี้ทำให้พวกเขาก็ยังคงไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนขึ้นเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จอย่างน่าเสียดาย แม้ว่าในช่วงต้นฤดูกาลพวกเขาจะสามารถทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมจนยึดตำแหน่งจ่าฝูงติดต่อกันได้นานหลายสัปดาห์ แต่หลังจากที่มีข่าวความไม่มั่นคงของสโมสรหลังจากที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรตัดสินใจประกาศแบนเจ้าของสโมสรชาวรัสเซียอย่างอับราโมวิช โรมันเนื่องจากมีความสนิทสนมกับประธานาธิบดีรัสเซียอย่างวลาดิเมียร์ ปูตินที่ส่งกองกำลังทหารบุกเข้าโจมตียูเครนจนทำให้ชาติตะวันตกหลายชาติพยายามออกมาตรการต่อต้านและแบนรัสเซียอย่างเต็มที่เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยในการก่อสงครามดังกล่าว สโมสรฟุตบอลชื่อดังของพรีเมียร์ลีกเชลซีเลยโดนหางเลขไปกับเขาด้วยทำให้พวกเขาไม่สามารถดำเนินการทางการเงินได้เลยไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายตั๋ว ของ Official นักเตะ หรือแม้แต่การต่อสัญญาก็ตาม มันส่งผลต่อสภาพจิตใจของนักเตะจนทำให้ช่วงหลังวันนี้พวกเขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีเท่าที่ควร ดังนั้นหลังจากที่มีข่าวออกมาว่าจะมีกลุ่มทุนของมหาเศรษฐีชื่อ

     ในฤดูกาลนี้การแข่งขันพรีเมียร์ลีกอาจจะเต็มไปด้วยความเข้มข้นทำให้การแข่งขันลีกอื่นในยุโรปไม่ค่อยได้รับการจับตามองเท่าที่ควร แต่มันก็เป็นปีที่มีนักเตะดาวดังจากทีมยุโรปมากมายที่ไม่ได้มาจากพรีเมียร์ลีกได้รับความสนใจ อย่างเช่นนักเตะคนดังอย่างเออร์ลิ่ง เบราต์ ฮาแลนด์ หรือโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ที่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงเวลานี้ น่าเสียดายที่เลวานดูไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไหร่กับการค้าแข้งให้กับบาเยิร์น มิวนิคเนื่องจากทีมไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ควรจะเป็น หากการแข่งขันฤดูกาลนี้ไม่มีการแข่งขันฟุตบอลโลกเข้ามาร่วมด้วยมีหวังว่าเขาจะไม่ได้ติดแม้กระทั่งรายชื่อผู้ท้าชิงรางวัลบัลลงดอร์ประจำปี 2022 ด้วยซ้ำ แต่ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่มีความสุขขนาดไหนก็ตามแต่เขาก็ยังคงสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการยิงประตูพาทีมบุกคว้าชัยชนะหรืออย่างน้อยก็ช่วยให้ทีมไม่ต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้เหมือนกับโรนัลโด้จากแมนยูแบบไม่มีผิดเพี้ยน ในช่วงหลายเดือนมานี้มีข่าวลือออกมาอย่างหนักว่านักเตะคนดังแสดงถึงท่าทีไม่พอใจกับการบริหารของผู้บริหารสโมสรสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะการที่พวกเขายังคงนิ่งเฉยไม่ได้แสดงท่าทีว่าต้องก

       โรนัลดินโญ่ ซูเปอร์สตาร์และไอคอนของบราซิลเปิดเผยว่าเขาใกล้ชิดกับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างไม่น่าเชื่อในปี 2002 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหนึ่งปีก่อนจะย้ายไปยังบาร์เซโลนา       นักเตะที่เต็มไปด้วยลูกเล่น ทักษะ และความสามารถมากมาย โรนัลดินโญ่ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในยุคของเขา โดยได้รับรางวัลบัลลงดอร์ในปี 2005 แข้งชาวอเมริกาใต้รายนี้ยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าในปี 2004 และ 2005อีกด้วย นอกจากนี้เขายังได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกพร้อมกับสโมสรในสเปนและอิตาลี ล่าสุดในการพูดคุยกับ SportBible อดีตนักเตะวัย 42 ปีเปิดเผยว่าเขาเกือบจะย้ายไปที่โอลด์แทรฟฟอร์ดระหว่างที่ยังอยู่กับเปแอสเช ก่อนที่จะตัดสินใจว่าการย้ายไปบาร์เซโลนาจะเป็นประโยชน์กับเขามากกว่า โรนัลดินโญ่อ้างว่า “ผมใกล้จะย้ายไปยูไนเต็ดแล้วจริงๆ ผมมีโอกาสนั้นและมันก็ใกล้เคียงมาก แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจเซ็นสัญญากับบาร์เซโลนา” หลังจากปฏิเสธโอกาสในการเล่นให้กับทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพลย์เมคเกอร์รายนี้ก็ไปสร้างตำนานและเล่นอยู่ในจุดสูงสุดในคัมป์นู ในขณะที่เขายิงได้ 94 ประตูจาก 207 เกมแ

      กองกลางคือหัวใจและจิตวิญญาณของทีมฟุตบอลทุกทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับทีมที่แข่งขันกันเพื่อคว้าแชมป์ลีกและบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรป ในขณะที่มิดฟิลด์ตัวรุกต้องทำเกมรุก มิดฟิลด์ตัวรับคือผู้ควบคุมสิ่งต่างๆในสนาม พวกเขากำหนดการเล่น คัดกรองจังหวะอันตรายใดๆ ที่กำลังย่างกรายเข้ามาหน้าแผงเกมรับและคอยควบคุมจังหวะของเกม ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ทีมที่มีผลงานดีอย่างต่อเนื่องในปีนี้จะมีผู้เล่นที่เป็นตัวชูโรงอยู่ในบทบาทของมิดฟิลด์ตัวรับด้วย อย่างไรก็ตาม ในบรรดามิดฟิลด์ตัวรับจำนวนมากใน 5 ลีกชั้นนำของยุโรป มีเพียงไม่กี่คนที่ถูกยอมรับว่าเก่งกว่าที่เหลือทั้งหมด ในบทความนี้เราจะมาเสนอสองกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในโลกโดยพิจารณาจากเรตติ้งในฤดูกาลนี้ (2021-22)  หมายเหตุ: การให้คะแนนเป็นไปตาม WhoScored.com 1 โจชัว คิมมิช 7.60/10       โจชัว คิมมิช เป็นผู้เล่นตัวหลักของบาเยิร์น มิวนิคในฤดูกาลนี้ สตาร์ชาวเยอรมันที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่งมีอิทธิพลอย่างมากในบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับ แม้ว่าจะมีความสูงไม่มากนักแต่เขาก็มีความเร็ว ความสามารถทางเทคนิค และความเข้าใจในเกม ซึ่งเพียงพอที่จะเอาชนะคู่ต่อส

         มีรายงานมาว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเจรจาเพื่อคว้าตัว เปา ตอร์เรส ปราการหลังของบียาร์เรอัล ปราการหลังชาวสเปนถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเป้าหมายการย้ายทีมอันดับต้น ๆ ของยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก ตามรายงานของMarca ที่ระบุว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้แจ้งบียาร์เรอัลแล้วว่าพวกเขายินดีที่จะเสนอเงิน 50 ล้านยูโรสำหรับนักเตะวัย 25 ปีรายนี้       ตอร์เรสลงเล่นให้บียาร์เรอัลไปแล้วกว่า 130 นัดในทุกรายการ พร้อมกับคว้าแชมป์ยูฟ่ายูโรป้าลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว นอกจากนี้เขายังอยู่ในทีมชาติสเปนของ หลุยส์ เอ็นริเก้ ชุดลุยศึกยูโร 2020 ซึ่งช่วยพาทีมไปถึงรอบรองชนะเลิศได้ เขายังคงฟอร์มที่น่าประทับใจต่อไปในฤดูกาลนี้ ตอร์เรสลงเล่นไปแล้ว 47 นัดและยิงได้ 6 ประตูจากทุกรายการช่วยให้ทีมของอูไน เอเมรีผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกก่อนที่จะแพ้ต่อลิเวอร์พูล นักเตะวัย 25 ปีรายนี้ตกเป็นข่าวอย่างหนักกับการย้ายออกจากถิ่นเอสตาดิโอ เด ลา เซรามิกาเมื่อฤดูกาลที่แล้วแต่สุดท้ายก็ยังอยู่กับทีมต่อ การย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีกจึงเป็นตัวเลือกที่เป็นไปได้สำหรับเขาในช่วงซัมเมอร์นี้ ในขณะเดียวกันคาดว่า เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการท

           การเป็นกุนซือให้กับสโมสรฟุตบอลไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย คนที่จะสามารถทำหน้าที่นี้ได้ไม่ใช่ว่าต้องมีความสามารถหรือความรู้เกี่ยวกับฟุตบอลเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น พวกเขายังต้องมีกลยุทธ์ในการกระตุ้น ปลุกใจ หรือดึงฟอร์มนักเตะให้สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย มันจึงเป็นงานหนักไม่น้อยสำหรับกุนซือในสโมสรฟุตบอลขนาดใหญ่ที่มีเดิมพันสูง อย่างเช่นสโมสรฟุตบอลในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกที่ได้รับความสนใจไปทั่วทั้งโลก หนึ่งในสโมสรที่กำลังเผชิญกับปัญหาฟอร์มนักเตะอยู่ในช่วงขาลงในตอนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเชลซี ต้องยอมรับว่าในช่วงท้ายฤดูกาลนี้พวกเขาเป็นสโมสรที่น่าเห็นใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะนอกจากพวกเขาจะมีคะแนนตามหลังอันดับ 2 อย่างลิเวอร์พูลแบบไกลริ้วแล้วพวกเขายังต้องเผชิญปัญหาเกี่ยวกับการเงินเนื่องจากเจ้าของทีมของพวกเขาเป็นมหาเศรษฐีชาวรัสเซียที่ถูกอังกฤษแบนทำให้สโมสรแทบจะขาดรายได้ แน่นอนว่ามันบั่นทอนกำลังใจของนักเตะแต่ละคนเป็นอย่างมากและมันก็ส่งผลถึงฟอร์มการเล่นของพวกเขาด้วย แต่อย่างไรก็ตามเชลซีเป็นสโมสรมากความสามารถที่ยังคงมีโอกาสลุ้นแชมป์การแข่งขันเอฟเอคัพอยู่โดยเฉพาะการแข่งขันร่วมกับ

            การแข่งขันกีฬาทุกประเภทแน่นอนว่านักกีฬาก็อยากจะคว้าชัยชนะกันทุกคนแต่มันไม่ใช่ทุกครั้งที่พวกเขาจะสามารถโชว์ฟอร์มได้เยี่ยม มันต้องมีบางครั้งหรือบางช่วงเวลาที่พวกเขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งกาจออกได้เช่นเดียวกันแม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักกีฬาแต่มันก็ต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเพราะพวกเขาก็คือมนุษย์เหมือนกับเราทุกคน ยิ่งสถานการณ์อยู่ภายใต้ความกดดันยิ่งส่งผลต่ออารมณ์และรูปแบบการเล่นมากยิ่งขึ้นไปอีก มันจึงไม่น่าแปลกใจที่ในช่วงเวลานี้นักฟุตบอลจากสโมสรชื่อดังในพรีเมียร์ลีกอย่างสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะมีปัญหาเกี่ยวกับอารมณ์ ตั้งแต่ที่โรนัลโด้ปัดโทรศัพท์มือถือของหนึ่งในแฟนบอลวัย 14 ปีตกลงพื้น คราวนี้ในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกนัดพบกับนอริช ซิตี้เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมาก็มีอีกหนึ่งนักเตะที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกมาเช่นเดียวกัน แม้ว่าจะไม่ได้ร้ายแรงแต่ก็เป็นที่พูดถึงไม่น้อยนั่นก็คือปอล ป๊อกบานั่นเอง การแข่งขันในครั้งนี้แมนยูทำผลงานได้ไม่ดีสักเท่าไหร่เพราะพวกเขาควรจะสามารถคว้า 3 แต้มได้แบบง่ายๆและยังเป็นโอกาสเก็บคลีนชีตของพวกเขาอีกด้วยเพราะกำลังแข่งกับทีมบ๊วยของตาราง แต่กลับกลายเป็นว่ากว่า

           ครั้งที่เมียลีกฤดูกาลนี้เต็มไปด้วยความน่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็นการชิงตำแหน่งจ่าฝูงระหว่างแมนซิตี้ที่ตอนนี้มีอยู่ 74 คะแนนและลิเวอร์พูลรองจ่าฝูงที่ตามหลังมาแบบจี้หลังด้วย 73 แต้ม ตามหลังเพียงแค่คะแนนเดียวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าตอนนี้นอกจากแฟนบอลของแมนซิตี้และลิเวอร์พูลแล้วคนส่วนใหญ่ก็มักจะลุ้นตำแหน่งท็อปโฟร์มากกว่าเพราะมันดุเดือดกว่ากันเป็นอย่างมาก ในตอนนี้มีสโมสรมากมายที่พยายามจะชิงตำแหน่งท็อปโฟร์เพื่อที่ตัวเองจะได้เข้าร่วมการแข่งขันยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกในฤดูกาลหน้า โดยสโมสรที่อยู่อันดับ 4 ในปัจจุบันคือท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ที่แข่งขันไปแล้ว 32 ครั้งมีทั้งหมด 57 แต้ม ตามมาด้วยแมนยูที่แข่งไปแล้ว 32 ครั้งมี 54 แต้ม และผู้ท้าชิงอย่างอาเซนอลที่แข่งไปแล้ว 31 ครั้งแต่มีสูงถึง 54 แต้ม ยังไม่รวมไปถึงทีมที่กำลังมีฟอร์มร้อนแรงสุดขีดแบบเวสต์แฮม ยูไนเต็ดที่ถึงแม้ว่าจะแข่งไปแล้ว 33 ครั้งแต่ก็ตามมาด้วยคะแนนเพียงแค่ 51 แต้มเท่านั้น ล่าสุดอดีตกองกลางทีมชาติชื่อดังอย่างโอเว่น ฮาร์กรีฟส์ได้มีการออกมาฟันธงแล้วว่าสโมสรไหนที่น่าจะคว้าตำแหน่งท็อปโฟร์บนตารางพรีเมียร์ลีกไปครองได้สำเร็จ    

       ในขณะนี้ ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถือเป็นสองทีมที่ดีที่สุดในยุโรป โดยมีผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสองคนในยุคสมัยใหม่ ทั้ง เป็ป กวาร์ดิโอล่า และ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดีและเราต่างตั้งตารอที่จะได้เห็นผู้จัดการทีมระดับโลกสองคนฟาดฟันกันในเชิงแทคติก เชื่อกันว่าทั้งสองฝ่ายไม่อยากได้ผลเสมอโดยเฉพาะหงส์แดงที่รู้ดีว่าจะทำให้ซิตี้ได้เปรียบขึ้นไปอีก ทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมที่ยากจะคาดเดาและน่าติดตามเป็นอย่างมาก  แดนนี่ เมอร์ฟี อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษได้เปิดเผยจุดอ่อนของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้และลิเวอร์พูลก่อนการปะทะกันในเกมบิ๊กแมตช์คืนวันอาทิตย์นี้ ว่าที่แชมป์ทั้งสองทีมจะเผชิญหน้ากันที่เอทิฮัดสเตเดียมซึ่งผลจากเกมนัดนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญและหมายถึงโอกาสในการคว้าแชมป์ ซึ่งอดีตกองกลางหงส์แดงอย่าง แดนนี่ เมอร์ฟี่ ออกมาบอกว่าเป็นสิ่งที่ยากมากในการชี้ให้เห็นจุดอ่อนของทั้งสองทีม อดีตแข้งวัย 45 ปีคิดว่าลิเวอร์พูลมีจุดอ่อนในตำแหน่งริมเส้นหลังจากที่บรรดาฟูลแบ็คทั้งสองคนชอบที่จะเปิดเกมบุกมากเกินไป อย่างไรก็ตามเขาได้แนะนำว่าเจอร์เก้น คล็อปป์ จะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้โดยใ

      เข้าสู่สัปดาห์ที่ 35 เป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการแข่งขันพรีเมียร์ลีก เหลืออีกเพียงแค่ไม่ถึง 1 เดือนเท่านั้นการแข่งขันก็จะจบลงพร้อมกับผลแพ้ชนะว่าใครที่จะสามารถคว้าถ้วยในครั้งนี้ไปได้สำเร็จ ด้วยการแข่งขันที่เต็มไปด้วยความสูงสีทำให้ในช่วงเวลานี้ทุกอย่างล้วนดุเดือด เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าการแข่งขันในสัปดาห์นี้มีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง   1.        การพบกันระหว่างนิวคาสเซิลและลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้โมฮาเหม็ด ซาลาห์เป็นนักเตะที่สามารถทำได้ทั้งประตูและแอสซิดสต์สูงสุดประจำพรีเมียร์ลีกต่อ 1 การแข่งขัน โดยล่าสุดที่เขาทำได้คือ 6 แม้ว่าการแข่งขันในครั้งนี้ลิเวอร์พูลจะดูได้เปรียบแต่เราต้องไม่รู้ว่าจะมีฟอร์มที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทำให้ลิเวอร์พูลไม่สามารถละหมาดได้เหมือนเดิมหากพวกเขายังต้องการที่จะเดินหน้าคว้า 4 แชมป์ต่อไป 2.        การพบกันระหว่างลีดส์ ยูไนเต็ดและแมนซิตี้   เป็นการแข่งขันที่แมนซิตี้น่าจะสบายแม้ว่าในช่วงหลังมานี้ทีมนกยูงทองจะฟอร์มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว พวกเขาไม่พ่ายแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียวในการแข่งขัน 5 ครั้งให้หลังมานี้ หากการแข่งขันในครั้งนี้พวกเขาสามารถตีเสมอแม

                   การแข่งขันพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดที่ผ่านมาเป็นการพบกันระหว่างสองสโมสรใหญ่นั่นก็คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและเชลซีนั้นเอง หากเป็นสมัยก่อนการแข่งขันคู่นี้จะต้องถูกจับตามองอย่างหนักอย่างแน่นอนเพราะพวกเขามีฝีมือที่สูสีกันเป็นอย่างมาก แต่ในฤดูกาลนี้การแข่งขันของทั้งคู่กลับไม่น่าสนใจสักเท่าไหร่เพราะทั้งสองทีมต่างก็อยู่ในช่วงฟอร์มตกเหมือนกัน แถมการแข่งขันครั้งนี้ก็จบลงไปด้วยการเสมอกันด้วยคะแนน 1 ประตูต่อ 1 อีกต่างหาก หากใครได้รับชมการถ่ายทอดสดจะทราบดีเลยว่าแมนยูมีสภาพเป็นรองเชลซีอย่างชัดเจนแต่ในขณะเดียวกันเองเชลซีก็ไม่ได้อันตรายถึงขั้นที่จะสามารถเอาชนะแมนยูได้แต่อย่างใด วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าการแข่งขันครั้งนี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง   1.        โรงละครแห่งความฝันสนามอาถรรพ์ ถึงจะไม่น่าเชื่อว่าแค่ไหนก็ตามแต่แมนยูที่ผลงานย่ำแย่มาตลอดหลายปีให้หลังมานี้แทบจะไม่พ่ายแพ้ให้กับเชลซีในสนามของตัวเองเลยในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ครั้งสุดท้ายที่เชลซีสามารถบุกมาเอาคะแนนในโรงละครแห่งความฝันได้สำเร็จเกิดขึ้นตั้งแต่ในปี 2013 รูปทั้งหมดกินเวลาติดต่อกันเป็นนัดที่ 9 เป็นที่เรียบร้อยแล้วที่แม