ฮาร์กรีฟส์ฟันธงสโมสรไหนจะได้คว้าตำแหน่งท็อปโฟร์ของพรีเมียร์ลีกไป
ครั้งที่เมียลีกฤดูกาลนี้เต็มไปด้วยความน่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็นการชิงตำแหน่งจ่าฝูงระหว่างแมนซิตี้ที่ตอนนี้มีอยู่ 74 คะแนนและลิเวอร์พูลรองจ่าฝูงที่ตามหลังมาแบบจี้หลังด้วย 73 แต้ม ตามหลังเพียงแค่คะแนนเดียวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าตอนนี้นอกจากแฟนบอลของแมนซิตี้และลิเวอร์พูลแล้วคนส่วนใหญ่ก็มักจะลุ้นตำแหน่งท็อปโฟร์มากกว่าเพราะมันดุเดือดกว่ากันเป็นอย่างมาก ในตอนนี้มีสโมสรมากมายที่พยายามจะชิงตำแหน่งท็อปโฟร์เพื่อที่ตัวเองจะได้เข้าร่วมการแข่งขันยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกในฤดูกาลหน้า โดยสโมสรที่อยู่อันดับ 4 ในปัจจุบันคือท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ที่แข่งขันไปแล้ว 32 ครั้งมีทั้งหมด 57 แต้ม ตามมาด้วยแมนยูที่แข่งไปแล้ว 32 ครั้งมี 54 แต้ม และผู้ท้าชิงอย่างอาเซนอลที่แข่งไปแล้ว 31 ครั้งแต่มีสูงถึง 54 แต้ม ยังไม่รวมไปถึงทีมที่กำลังมีฟอร์มร้อนแรงสุดขีดแบบเวสต์แฮม ยูไนเต็ดที่ถึงแม้ว่าจะแข่งไปแล้ว 33 ครั้งแต่ก็ตามมาด้วยคะแนนเพียงแค่ 51 แต้มเท่านั้น ล่าสุดอดีตกองกลางทีมชาติชื่อดังอย่างโอเว่น ฮาร์กรีฟส์ได้มีการออกมาฟันธงแล้วว่าสโมสรไหนที่น่าจะคว้าตำแหน่งท็อปโฟร์บนตารางพรีเมียร์ลีกไปครองได้สำเร็จ
โอเว่น ฮาร์กรีฟส์เป็นอดีตนักเตะทีมชาติอังกฤษที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่กับแมนยูมาก่อนทำให้เขาสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ฟุตบอลได้เป็นอย่างดี
เจ้าตัวกล่าวว่าหากดูโปรแกรมที่เหลือสำหรับอาร์เซนอลแล้วมันค่อนข้างหนักหน่วงเพราะพวกเขาต้องพ่ายแพ้ให้กับทีมรองบ่อนอย่างเซาธ์แฮมป์ตัน
ไบรท์ตัน และคริสตัลพาเลซมาก่อน หลังจากนี้เขาต้องเจอกับสโมสรใหญ่ไม่ว่าจะเป็นแมนยู
เชลซี สเปอร์ หรือเวสต์แฮมมันจึงค่อนข้างยากไม่น้อยที่จะคว้าอันดับ 4 แต่ก็ใช่ว่าไม่มีโอกาส
ในตอนนี้สเปอร์มีโอกาสมากที่สุดเพราะคะแนนนำอยู่แม้ว่าจะแข่งมากกว่าอาร์เซนอลไป 1
เกมก็ตาม ในขณะที่แมนยูเองก็ยังไม่ได้มีความคงเส้นคงวามากพอดังนั้นท็อตแน่ม
ฮ็อทสเปอร์จึงน่าจะเป็นสโมสรที่สามารถติดดังกล่าวได้สำเร็จ
หากเราพิจารณากันให้ดีจะพบว่าสเปอร์สภายใต้การคุมทีมของอันโตนิโอ
คอนเต้นั้นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะหากเทียบกับผลงานในช่วงต้นฤดูกาลมันจะมีโอกาสสูงไม่น้อยที่พวกเขาจะดึงความโดดเด่นออกมาในช่วงโค้งสุดท้ายได้สำเร็จและยังคงรักษาตำแหน่งของตัวเองเอาไว้ได้
เพราะตอนนี้หากเปรียบเทียบแล้วพวกเขามีงานหนักที่น้อยที่สุดจากบรรดาผู้ท้าชิงทั้งหลาย
สุดท้ายแล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไรเรายังคงต้องติดตามกันต่อไปจนถึงสัปดาห์ที่ 38
ของการแข่งขัน
ติดตามข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ : ข่าวฟุตบอลล่าสุด
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก : https://footballhits98.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น